เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ตื่นเต้นนอร์เวย์ใกล้คว้าตั๋วบอลโลก

Browse By

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงจอมถล่มประตูของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาตินอร์เวย์ ออกมาแสดงความตื่นเต้นและมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หลังจากทัพ “ไวกิ้ง” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 จนตอนนี้มีโอกาสสูงมากที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษ ข่าวนี้สร้างกระแสความดีใจและคึกคักอย่างมากในหมู่แฟนบอลชาวนอร์เวย์ รวมถึงในแวดวงฟุตบอลยุโรป เพราะหากนอร์เวย์สามารถคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายได้สำเร็จ มันจะเป็นการกลับมาสู่เวทีระดับโลกของพวกเขาหลังจากห่างหายไปนานนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งในตอนนั้นพวกเขายังไม่มีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างฮาแลนด์เป็นผู้นำทีมเช่นทุกวันนี้ ความหวังของชาติทั้งประเทศจึงพุ่งตรงไปที่ชายผู้สวมเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรงที่สุดของอาชีพ และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคใหม่ของวงการลูกหนังนอร์เวย์ไปแล้วในตอนนี้ โดยแฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้ติดตามข่าวฟุตบอลในช่องทาง สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ต่างเฝ้ารอดูเส้นทางของฮาแลนด์และเพื่อนร่วมทีมว่าจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ได้หรือไม่

สำหรับเส้นทางในรอบคัดเลือกโซนยุโรป นอร์เวย์อยู่ในกลุ่มที่ถือว่ามีการแข่งขันสูง ร่วมกับทีมอย่างสเปน สกอตแลนด์ และจอร์เจีย แต่พวกเขาทำผลงานได้เหนือความคาดหมายด้วยการเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องในเกมสำคัญหลายแมตช์ โดยเฉพาะชัยชนะเหนือสกอตแลนด์ 3-1 ที่ทำให้แต้มรวมของพวกเขาขยับขึ้นมาใกล้จ่าฝูง และมีโอกาสจบในตำแหน่งที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยตรง ความแข็งแกร่งของแนวรุกที่มีทั้งฮาแลนด์และมาร์ติน เออเดการ์ด กัปตันทีมจากอาร์เซน่อล เป็นแกนหลัก ทำให้เกมรุกของนอร์เวย์น่ากลัวขึ้นอย่างมาก การประสานงานระหว่างสองนักเตะซูเปอร์สตาร์กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมในยุคนี้ โดยทั้งคู่ต่างมีความเข้าใจเกมสูง และสามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้จากทั้งการสวนกลับและการครองบอลในจังหวะช้า

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับ TV2 Norway ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เรากำลังอยู่ในเส้นทางที่ดี และผมมั่นใจว่านอร์เวย์กำลังจะไปฟุตบอลโลก ผมฝันถึงการได้ยินเพลงชาติของเราในสนามฟุตบอลโลกตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ความฝันนั้นกำลังเข้าใกล้ความจริงมากกว่าครั้งไหน ๆ” คำพูดของเขากลายเป็นพลังใจสำคัญให้กับแฟนบอลทั้งประเทศที่ต่างรอคอยความสำเร็จนี้มานานกว่า 25 ปี บรรยากาศในประเทศนอร์เวย์เต็มไปด้วยความหวัง ทั้งสื่อท้องถิ่นและแฟนบอลต่างพากันพูดถึง “ยุคทองใหม่” ของฟุตบอลนอร์เวย์ที่กำลังจะมาถึง

สิ่งที่ทำให้ฮาแลนด์มีความมั่นใจขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะฟอร์มส่วนตัวที่ยังคงร้อนแรงในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เป็นเพราะระบบการเล่นของทีมชาติภายใต้การคุมของ สตาเล่ โซลบัคเค่น (Ståle Solbakken) ที่กำลังเริ่มเข้าที่เข้าทาง โค้ชรายนี้พยายามสร้างสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุก โดยใช้ศักยภาพของผู้เล่นแนวรุกอย่างฮาแลนด์, เออเดการ์ด, อเล็กซานเดอร์ เซอร์ลอธ และอันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบ 4-3-3 ที่โซลบัคเค่นใช้ช่วยให้ฮาแลนด์มีอิสระในการเคลื่อนที่มากขึ้น เขาไม่ต้องยืนค้ำแนวรับคู่แข่งตลอดเวลา แต่สามารถฉีกออกมาหาพื้นที่เพื่อเชื่อมบอลหรือสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ นั่นทำให้นอร์เวย์ไม่ใช่ทีมที่พึ่งพาฮาแลนด์เพียงคนเดียวอีกต่อไป แต่กลายเป็นทีมที่มีระบบการเล่นเป็นของตัวเอง

สถิติในรอบคัดเลือกแสดงให้เห็นชัดเจนว่าฮาแลนด์ยังคงเป็นกองหน้าที่ไว้ใจได้ที่สุดในยุโรป เขาทำไปแล้ว 9 ประตูจาก 8 นัด และยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมอย่างต่อเนื่อง การจบสกอร์เฉียบคมและความแข็งแกร่งทางร่างกายทำให้เขาเป็นอาวุธที่คู่แข่งยากจะรับมือ ในเกมที่พบกับสเปนที่กรุงออสโล ฮาแลนด์โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการยิง 2 ประตูในเกมเดียว แม้ว่าทีมจะเสมอ 2-2 แต่ฟอร์มของเขาทำให้ผู้ชมทั่วโลกเห็นถึงความแตกต่างระหว่างกองหน้าธรรมดากับ “นักล่าประตูระดับโลก” ที่สามารถสร้างความหวังได้ทุกครั้งที่บอลมาถึงเท้า

กระแสความคึกคักนี้ยังส่งผลให้ความนิยมของทีมชาตินอร์เวย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั๋วเข้าชมเกมเหย้าของพวกเขาขายหมดเกลี้ยงทุกนัดตั้งแต่เปิดจำหน่าย และยอดขายเสื้อทีมชาติที่มีชื่อ “Haaland 9” อยู่ด้านหลังก็พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การมีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกในทีมไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพในสนาม แต่ยังช่วยเพิ่มความสนใจทางการตลาดให้กับวงการฟุตบอลของประเทศอีกด้วย ซึ่งในแง่นี้ ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด ได้วิเคราะห์ไว้ว่าการไปฟุตบอลโลกของนอร์เวย์จะมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ กีฬา และภาพลักษณ์ของประเทศที่เริ่มกลายเป็นหนึ่งในชาติที่ถูกจับตามองมากที่สุดในยุโรปเหนือ

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลยุโรป การที่นอร์เวย์มีโอกาสสูงในการคว้าตั๋วฟุตบอลโลกครั้งนี้ถือเป็นผลลัพธ์จากการลงทุนในโครงสร้างเยาวชนอย่างจริงจังตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลนอร์เวย์ได้ปรับปรุงระบบการฝึกซ้อมเยาวชนให้มีมาตรฐานเดียวกับประเทศชั้นนำในยุโรป พวกเขาส่งโค้ชไปศึกษาแนวทางจากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ รวมถึงปรับปรุงสนามและศูนย์ฝึกในประเทศให้มีคุณภาพสูง เพื่อให้เยาวชนได้รับการพัฒนาในทุกมิติ ไม่เพียงแต่เรื่องเทคนิคแต่ยังรวมถึงเรื่องจิตใจและความเป็นมืออาชีพ ผลลัพธ์ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้คือการได้เห็นนักเตะอย่างฮาแลนด์, เออเดการ์ด, โอลเซ่น และฟอสเซ่อร์ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติในยุคเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นอร์เวย์ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายสิบปี

ฮาแลนด์เองเคยกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างภาคภูมิใจว่า “ทีมชาติของเรามีโครงสร้างที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เราไม่ได้พึ่งพาใครคนเดียวอีกแล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ผมเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฟุตบอลนอร์เวย์” คำพูดนี้สะท้อนถึงความมั่นใจในทีมชุดปัจจุบันที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยซึ่งมีประสบการณ์ในลีกใหญ่ของยุโรป ความสามัคคีและแนวทางการเล่นที่ชัดเจนทำให้นอร์เวย์ไม่ใช่ทีมที่คู่แข่งมองข้ามได้อีกต่อไป

แม้ว่าจะยังเหลือการแข่งขันอีกสองนัดในรอบคัดเลือก แต่แฟนบอลทั่วโลกต่างเริ่มคาดการณ์ว่านอร์เวย์น่าจะสามารถเก็บแต้มได้พอเพียงสำหรับการผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ได้สิทธิ์เพลย์ออฟ หากสามารถรักษาฟอร์มการเล่นในระดับนี้ไว้ได้ ฮาแลนด์กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญคือเราต้องเล่นด้วยความมั่นใจ ไม่ใช่เพียงแค่รอให้คู่แข่งพลาด แต่ต้องสร้างเกมของเราเอง ผมเชื่อว่าทีมนี้สามารถต่อกรกับทุกชาติได้” คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นของเขาที่ไม่ต่างจากตอนเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเจ้าตัวยังรักษามาตรฐานการเล่นระดับสูงได้อย่างต่อเนื่องในทุกเวที

ในอีกมุมหนึ่ง สื่ออังกฤษและยุโรปมองว่าหากนอร์เวย์สามารถคว้าตั๋วฟุตบอลโลกได้สำเร็จ มันอาจกลายเป็น “แรงกระเพื่อมครั้งใหญ่” ในตลาดนักเตะ เพราะนักเตะจากประเทศนอร์เวย์จะได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่ในยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นวงการฟุตบอลภายในประเทศให้เติบโตเร็วขึ้นอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าทางสมาคมฟุตบอลนอร์เวย์กำลังพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาเยาวชน โดยใช้รายได้จากการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก เพื่อสร้างศูนย์ฝึกแห่งใหม่ในกรุงออสโล เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนานักเตะในอนาคต

ในเชิงสถิติ นอร์เวย์ถือเป็นหนึ่งในทีมที่มีพัฒนาการเร็วที่สุดในยุโรปในช่วงสามปีหลัง พวกเขาไต่จากอันดับ 48 ของฟีฟ่า แรงกิ้ง ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 29 ภายในเวลาไม่ถึงสองปี ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของฮาแลนด์ที่ทำประตูเฉลี่ยมากกว่า 1 ลูกต่อเกมในนามทีมชาติ และการที่ทีมมีแนวรับเหนียวแน่นขึ้นจากการเข้ามาของกองหลังดาวรุ่งอย่าง สเตียน โรเด้ และลีโอ ออสติกการ์ด ที่กำลังทำผลงานดีในลีกอิตาลี ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมมีสมดุลที่ดีระหว่างเกมรุกและเกมรับ

สิ่งที่แฟนบอลนอร์เวย์ภาคภูมิใจที่สุดคือการได้เห็นทีมชาติของพวกเขาเติบโตขึ้นด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงการพึ่งพานักเตะซูเปอร์สตาร์เพียงคนเดียวเหมือนในอดีต บทวิเคราะห์ใน ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่ ยังได้ชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จของนอร์เวย์ในตอนนี้อาจเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหลายประเทศเล็กในยุโรปที่กำลังพยายามสร้างทีมชาติให้แข็งแกร่ง เพราะมันแสดงให้เห็นว่าการมีแผนระยะยาวและความมุ่งมั่นสามารถเปลี่ยนชาติเล็กให้กลายเป็นทีมที่น่ากลัวได้

เมื่อพูดถึงฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ฮาแลนด์ยอมรับว่า นั่นคือเป้าหมายสูงสุดในอาชีพของเขาในตอนนี้ “ผมเคยได้ยินคนพูดว่าผมยิงได้เยอะแต่ยังไม่เคยไปฟุตบอลโลก ผมอยากเปลี่ยนคำพูดนั้น ผมอยากพานอร์เวย์ไปยืนในจุดที่โลกต้องจับตามอง” ประโยคนี้กลายเป็นหัวข้อข่าวใหญ่ในสื่อหลายประเทศ เพราะมันสะท้อนถึงแรงขับภายในของนักเตะที่ไม่เพียงต้องการประสบความสำเร็จส่วนตัว แต่ต้องการสร้างชื่อให้ประเทศบ้านเกิดในระดับโลกด้วย

และถ้านอร์เวย์สามารถทำได้จริง ฟุตบอลโลกครั้งต่อไปอาจกลายเป็นเวทีที่ทั่วโลกได้เห็น “พลังใหม่จากยุโรปเหนือ” ที่นำโดยหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ความฝันที่แฟนบอลนอร์เวย์รอมานานกว่า 25 ปีอาจกลายเป็นจริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะไม่เพียงเป็นความสำเร็จของทีมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในวงการฟุตบอลของประเทศนี้

ฮาแลนด์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ฟุตบอลคือสิ่งที่ทำให้คนในประเทศเรารวมกัน ผมเห็นเด็ก ๆ มากมายใส่เสื้อทีมชาติและฝันอยากเป็นเหมือนพวกเรา นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมภูมิใจที่สุด” คำพูดเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ทำให้แฟนบอลหลายคนเชื่อว่าทีมชุดนี้จะไม่หยุดเพียงแค่การไปฟุตบอลโลก แต่จะสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้วงการลูกหนังนอร์เวย์ไปอีกนาน ในขณะที่ผู้วิเคราะห์ก็สรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า “หากนอร์เวย์ได้ไปฟุตบอลโลกจริง มันจะไม่ใช่แค่ความสำเร็จของชาติเล็ก ๆ แห่งสแกนดิเนเวีย แต่จะเป็นสัญลักษณ์ของยุคฟุตบอลใหม่ ที่ความมุ่งมั่นและระบบสามารถเอาชนะขนาดของประเทศได้” และเมื่อถึงวันนั้น เสียงเพลงชาติ “Ja, vi elsker dette landet” จะดังก้องไปทั่วเวทีฟุตบอลโลก พร้อมชื่อของเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ที่กลายเป็นตำนานของชาติไปตลอดกาล.