ในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ ถ้าพูดถึงปีกขวาที่ทั้งเร็ว คม ฉลาด และแบกภาระทีมชาติไว้ทั้งประเทศ หนึ่งในชื่อที่ต้องโผล่ขึ้นมาแบบไม่ต้องเปิดโพยคือ Mohamed Salah จากเด็กบ้านชนบทในอียิปต์ที่หลายคนไม่รู้จัก สู่การเป็น “ราชาฟาโรห์” ของลิเวอร์พูล และไอคอนวงการลูกหนังที่ดังไปไกลเกินกว่าขอบเขตสนามหญ้า
ทุกครั้งที่เราเห็น Mohamed Salah ลากบอลจากริมเส้นขวา ตัดเข้าในด้วยซ้าย ก่อนปั่นโค้ง ๆ เสียบเสาสอง แฟนบอลแทบจะรู้สึกเหมือนกดสกิลท่าประจำในเกมฟุตบอล บางคนอินจนอยากเอาความรู้เรื่องฟอร์มและสไตล์การเล่นของเขาไปต่อยอดในโลกเดิมพันจริง ๆ ใครที่อยากเชื่อมจากการเชียร์ไปสู่การลุ้น ก็อาจเริ่มมองหาช่องทางเล่นที่ใช้งานง่ายอย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด เอาไว้เป็นสนามเพิ่มรสชาติข้าง ๆ การดูบอล แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เรามาไล่ดูเส้นทางชีวิตของ “ซาลาห์” กันแบบยาว ๆ ก่อนดีกว่า
จาก Nagrig หมู่บ้านเงียบ ๆ สู่การไล่ตามความฝันบนผืนหญ้า
เด็กน้อยที่วิ่งเตะบอลท่ามกลางฝุ่นดิน
Mohamed Salah เกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ Nagrig ในประเทศอียิปต์ เป็นพื้นที่ชนบทที่ชีวิตประจำวันเรียบง่าย ผู้คนรู้จักกันทั้งหมู่บ้าน สนามหญ้าหรู ๆ ไม่มี มีแต่สนามดิน สนามทราย แต่สำหรับเด็กที่หลงรักฟุตบอลอย่างเขา มันก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็น “สนามซ้อมความฝัน”
ตอนเด็ก ๆ Salah ต้องใช้เวลาเดินทางไกลเพื่อไปซ้อมบอลกับทีมที่อยู่ไกลจากบ้าน เพราะพื้นที่ใกล้บ้านไม่มีระบบเยาวชนแบบจริงจัง การเดินทางไปกลับแต่ละครั้งใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่เขาก็ยังทำเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติ เหมือนเราเดินออกไปซื้อชานมหน้าปากซอย
ความอดทนตรงนี้แสดงให้เห็นตั้งแต่ยังเด็กว่า เขาไม่ได้เล่นฟุตบอลเพราะ “อยากเท่” แต่เล่นเพราะรักจริง ๆ
เข้าสู่เส้นทางเยาวชนในอียิปต์
จากการเล่นให้ทีมท้องถิ่น Salah ได้เข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสรชื่อดังในอียิปต์อย่าง Arab Contractors ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนจากเด็กที่เล่นเก่งในหมู่บ้าน มาเป็นนักเตะเยาวชนที่เริ่มมองเห็น “โอกาสเป็นอาชีพ”
ในระดับเยาวชน เขาโดดเด่นเรื่องสปีด ความขยัน และการเลี้ยงบอล แต่สิ่งที่โค้ชหลายคนพูดเหมือนกันคือ “เด็กคนนี้ไม่ได้มีแค่เทคนิค แต่มีทัศนคติที่โฟกัสและอยากพัฒนาตลอดเวลา”
ก้าวแรกในยุโรป: Basel จุดเปลี่ยนที่ทำให้โลกเริ่มรู้จักชื่อ Mohamed Salah
จากลีกอียิปต์สู่นาฬิกาสวิตฯ
ฝีเท้าของ Salah เริ่มไปเตะตาสโมสรในยุโรป และที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปเล่นให้ Basel สโมสรชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนทีม แต่คือการเปลี่ยนทวีป วัฒนธรรม ภาษา อากาศ และสภาพแวดล้อมทุกอย่าง
จากอียิปต์ที่ร้อนจัด มาเป็นอากาศเย็น ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ แถมยังต้องปรับตัวเข้ากับฟุตบอลสไตล์ยุโรปที่เน้นแท็กติกและสปีดเกมสูง แต่สิ่งที่ช่วยเขาคือ “ความยืดหยุ่น” และ “ความพยายาม” ที่ติดตัวมาแต่เด็ก
แจ้งเกิดบนเวทียุโรป
ในสีเสื้อ Basel Salah เริ่มทำให้โลกเห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ปีกที่วิ่งเร็ว แต่
- เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในพื้นที่แคบได้
- ตัดเข้าในยิงด้วยซ้ายได้เฉียบ
- กล้าเล่นในเกมใหญ่ ไม่กลัวคู่แข่งสโมสรใหญ่ ๆ
ฟอร์มในลีกและฟุตบอลยุโรป ทำให้แมวมองจากสโมสรใหญ่ในยุโรปเริ่มคอยตามดูเขาแบบจริงจัง ชื่อของ Mohamed Salah เริ่มหลุดเข้ามาอยู่ในวงสนทนาของแฟนบอลที่ชอบดูเกมยุโรปนอกกระแส
เชลซี: บทเรียนแรกในพรีเมียร์ลีกและเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ย้ายสู่สโมสรใหญ่ แต่โอกาสยังน้อย
เมื่อโอกาสเคาะประตูจากพรีเมียร์ลีก Salah ย้ายมาอยู่กับเชลซี ชื่อสโมสรอาจดูหรูหรา แต่ชีวิตของเขาในช่วงนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คนข้างนอกคิด
- คู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันมีหลายคน
- ระบบทีมยังไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเขา
- เวลาลงสนามมีจำกัด ความต่อเนื่องในฟอร์มเลยยังไม่ชัด
หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “จริง ๆ แล้วเขาดีพอสำหรับระดับพรีเมียร์ลีกหรือเปล่า” และนี่คือช่วงเวลาที่ใจคนจะหายหรืออยู่ ก็วัดกันตรงนี้แหละ
เลือกไม่ยอมแพ้: การไปพิสูจน์ตัวเองนอกลอนดอน
แทนที่จะนั่งรอโอกาสแบบไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ Salah เลือกเส้นทางไปยืมตัวกับสโมสรอื่น เพื่อให้ตัวเองได้เล่น ได้พัฒนา และได้พิสูจน์ว่าที่คนเห็นใน Basel มันไม่ใช่ฟอร์มชั่วคราว
การออกไปจากเชลซีในช่วงนั้นจากมุมมองภายนอกอาจดูเหมือน “ถอยหลัง” แต่ความจริงแล้วมันคือการ “อ้อมไปข้างหน้า” ที่โคตรสำคัญสำหรับเส้นทางของเขา
ฟิออเรนติน่า และโรมา: อิตาลีคือโรงเรียนแท็กติกที่ทำให้ซาลาห์อัปเกรดอีกขั้น
ฟิออเรนติน่า: เริ่มแสดงให้เห็นว่า “ซ้ายพิฆาต” นี่ของจริง
การไปอยู่กับฟิออเรนติน่าในอิตาลี ทำให้ Salah ได้เวทีแสดงความสามารถอีกครั้ง ในลีกที่เล่นแท็กติกแน่น เกมรับจัดเต็ม เขายังสามารถใช้สปีดและการเลี้ยงบอลสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งได้เรื่อย ๆ
แฟนบอลเริ่มจำได้ว่า “ปีกสไตล์วิ่งเร็ว เลี้ยงกินตัว แล้วตัดเข้าในยิง” คนนี้ไม่ธรรมดา และการเล่นในอิตาลีก็ช่วยให้เขาพัฒนาความเข้าใจเกมในเชิงแท็กติกมากขึ้นด้วย
โรมา: จากนักเตะน่าสนใจสู่ตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้
ที่โรมา Salah เปลี่ยนจาก “คนที่น่าจับตา” กลายเป็น “คนที่ทีมต้องมี” การเล่นร่วมกับนักเตะคุณภาพสูงและระบบทีมที่เปิดโอกาสให้เขาใช้จุดเด่นของตัวเอง ทำให้สถิติการยิงและแอสซิสต์ของเขาพุ่งขึ้น
เขากลายเป็นปีกที่ทีมพึ่งได้ทั้งการเจาะเกมรับฝั่งตรงข้าม และการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมจนกลายเป็นแนวรุกที่สมดุลมากขึ้น
ฟอร์มในอิตาลีนี่เองที่ทำให้สโมสรใหญ่อีกครั้งจากอังกฤษเริ่มมองเขาด้วยสายตาที่ต่างจากตอนอยู่เชลซี เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่แค่ดาวรุ่งที่มีแวว แต่เป็นแนวรุกระดับแถวหน้าในยุโรปไปแล้ว
ลิเวอร์พูล: เมื่อ ราชาฟาโรห์ พบบ้านหลังที่ใช่
การย้ายสู่แอนฟิลด์และเสียงวิจารณ์แรก ๆ
ตอน Mohamed Salah ย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูล หลายคนยังติดภาพ “สมัยเชลซี” อยู่ เลยตั้งคำถามว่า
“ซาลาห์นี่จะเวิร์กเหรอ จะกลายเป็นฟลอปอีกไหม?”
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กดิบ ๆ แล้ว ผ่านทั้ง Basel, ฟิออเรนติน่า, โรมา มาเต็ม ๆ เซตประสบการณ์ และที่สำคัญคือ เขามาเจอกับโค้ชที่เข้าใจว่าเขาคือชิ้นส่วนแบบไหนของจิ๊กซอว์ นั่นก็คือระบบเพรสซิ่งและเกมรุกบ้าคลั่งของลิเวอร์พูลยุคใหม่
ฤดูกาลแรก: จากโดนถาม กลายเป็นคำตอบ
ฤดูกาลแรกของ Salah กับลิเวอร์พูลคือคำว่า “บูม”
- ยิงประตูในลีกแบบพุ่งทะลุตัวเลขเก่าที่เคยมี
- กลายเป็นคู่หูฟีโน่–มาเน่ ที่โหดมากทั้งสามคน
- แทบทุกสัปดาห์มีไฮไลต์การลากเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายให้เห็น
จากคำถามว่า “จะเวิร์กไหม” กลายเป็นคำถามใหม่ว่า
“นี่มันตัวอะไร ยิงเยอะขนาดนี้ได้ยังไง?”
เสียงเชียร์ในแอนฟิลด์ที่ร้องเพลงเกี่ยวกับเขาเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ และไม่นานแฟนบอลก็พร้อมใจกันให้ฉายาว่า “Egyptian King” หรือที่เรามักได้ยินในไทยว่า “ราชาฟาโรห์”
การยืนระยะ: ไม่ใช่แค่ปีเดียวแล้วจางหาย
สิ่งที่ยากกว่าการแจ้งเกิดคือ “การยืนระยะ” แต่ Salah ทำให้เห็นว่าเขาไม่ใช่สายแวบเดียวแล้วหายไป ฟอร์มการเล่นของเขายังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า
ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู การทำแอสซิสต์ หรือการมีส่วนร่วมกับเกม เขาคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลยุคนี้เป็นทีมที่น่ากลัวทั้งในลีกและเวทียุโรป
แชมป์สำคัญ: ปิดปากคำถามด้วยถ้วยรางวัล
Salah ไม่ได้มีแค่สถิติส่วนตัว แต่ยังพาทีมคว้าแชมป์สำคัญ ๆ มาครอง ทั้งในระดับลีกและยุโรป ทำให้ชื่อของเขาไม่ได้ผูกกับคำว่า “นักเตะเก่งแต่ไม่มีแชมป์” แต่กลายเป็น “ตัวหลักของทีมแชมป์” เต็มตัว
เขากลายเป็นหนึ่งในคนสำคัญของยุคที่ลิเวอร์พูลกลับมายืนในจุดสูงสุดอีกครั้ง และถูกพูดถึงในวงกว้างว่าเป็นหนึ่งในดีลที่คุ้มค่าที่สุดของสโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก
สไตล์การเล่นของ Mohamed Salah: ปีกซ้ายเท้าเบาที่เอาจริงตอนซัดประตู
ความเร็วและการเลี้ยงบอล
ปัจจัยแรกที่ทำให้ Salah น่ากลัวคือ “สปีด” เขาไม่ได้เร็วแบบไร้ทิศทาง แต่เป็นความเร็วที่มีเป้าหมาย เล่นบอลไปเอง วิ่งไปเอง แล้วค่อยตัดสินใจจังหวะสุดท้าย
เมื่อผสมกับการเลี้ยงบอลที่รักษาบอลใกล้เท้าได้ดี ทำให้กองหลังมักเจอปัญหาเวลาเขาล็อกเข้า–ล็อกออก เพราะ
- ถ้าพุ่งเข้าใส่เร็วเกินไป ก็โดนแตะผ่าน
- ถ้าถอยมากไป ก็เปิดโอกาสให้เขาเลือกมุมยิง
การตัดเข้าในแล้วยิงด้วยซ้าย
ซิกเนเจอร์ของ Salah ที่แฟนบอลทั่วโลกจำได้คือ
- รับบอลทางขวา
- ล็อกหรือดึงจังหวะหลอก
- ตัดเข้าใน
- ปั่นด้วยซ้ายไปเสาสอง
ทุกคนรู้ว่าจะทำแบบนั้น กองหลังก็รู้ โกล์ก็รู้ คนดูทั้งโลกก็รู้ แต่หยุดไม่ได้ง่าย ๆ เพราะเขาเลือกจังหวะและมุมได้ดีมาก แถมบางครั้งยังซัดด้วยความแรงแบบโกล์ปัดไม่ออกอีกต่างหาก
การหาพื้นที่ว่างและการวิ่งหาช่อง
Salah ไม่ได้ยืนรอบอลอยู่กับที่ แต่เขาเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพื่อ
- วิ่งสอดเข้าไปในพื้นที่หลังแบ็ก
- ถอยลงมาเชื่อมบอลกับมิดฟิลด์
- สลับตำแหน่งกับเพื่อนร่วมแนวรุกให้คู่แข่งสับสน
ทำให้เขาไม่ได้อันตรายเฉพาะตอนลากบอล แต่ยังน่ากลัวในจังหวะวิ่งไปรับบอลทะลุช่องอีกด้วย
การจบสกอร์ในพื้นที่แคบ
ในกรอบเขตโทษที่ดูเหมือนไม่มีพื้นที่ Salah ยังสามารถหาช่องขยับเพื่อยิงได้เสมอ บางครั้งแค่แตะหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยปลายเท้า บอลก็พุ่งเสียบมุมแบบที่คนดูยังงงว่า “มีมุมให้ยิงตรงนั้นด้วยเหรอ”
บทบาทในทีมชาติอียิปต์: ภาระที่มากกว่าคำว่า “ซูเปอร์สตาร์”
ความหวังของคนทั้งชาติ
ในสีเสื้อทีมชาติอียิปต์ Salah ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในผู้เล่น แต่คือ “หน้าตาของทีม” และ “ความหวังของประเทศ” เลยก็ว่าได้ ทุกครั้งที่ทีมลงสนาม ชื่อของเขาคือคนแรก ๆ ที่ถูกพูดถึง
เขาพาทีมผ่านเข้ารอบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ ในทวีป และเป็นคนยิงประตูสำคัญในเกมชี้ชะตาหลายครั้ง ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของแฟนบอลในประเทศแบบจริงจัง
แบกมากกว่าฟุตบอล
นอกสนาม Salah ยังใช้ชื่อเสียงของตัวเองทำกิจกรรมเพื่อสังคมในบ้านเกิด สนับสนุนชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ จนคนในประเทศมองเขาไม่ใช่แค่ “นักฟุตบอลดัง” แต่เป็น “แบบอย่างของคนที่ไม่ลืมบ้านเกิด”
ภาพของเด็ก ๆ ในอียิปต์ที่ใส่เสื้อเบอร์ 11 พร้อมชื่อ Salah อยู่ด้านหลัง คือภาพที่เล่าเรื่องได้ดีกว่าคำบรรยายยาว ๆ เสียอีก
สรุปโปรไฟล์ Mohamed Salah
ตารางเล็ก ๆ ด้านล่าง ช่วยให้เห็นภาพรวมของ Mohamed Salah แบบรวบรัด
| หมวด | ข้อมูล |
|---|---|
| ชื่อเต็ม | Mohamed Salah Hamed Mahrous Ghaly |
| สัญชาติ | อียิปต์ |
| ตำแหน่งหลัก | ปีกขวา / แนวรุกริมเส้น |
| จุดเด่น | ความเร็ว, การเลี้ยงบอล, การตัดเข้าในยิงด้วยซ้าย, การหาช่องทำประตู |
| สโมสรสำคัญที่เคยเล่น | Arab Contractors, Basel, Chelsea, Fiorentina, Roma, Liverpool |
| ทีมชาติ | ทีมชาติอียิปต์ (ตัวหลักและไอคอนประจำชาติ) |
| ฉายา | Egyptian King / ราชาฟาโรห์ |
มุมมองสายแฟนตาซี–สายเดิมพัน: Salah ในโลกของตัวเลขและบิลลุ้น
นักเตะที่แทบจะ “ล็อก” ไว้ในทีมแฟนตาซีตลอด
สำหรับคนเล่นแฟนตาซีลีก Salah คือหนึ่งในนักเตะที่หลายคนแทบจะ “ล็อก” ไว้ในทีมทุกปี เพราะ
- มีส่วนกับประตูเยอะมาก ทั้งยิงและจ่าย
- เป็นมือสังหารจุดโทษของทีมบ่อยครั้ง
- ลงเล่นสม่ำเสมอ ถ้าไม่เจ็บหรือพักจริง ๆ
แต้มแฟนตาซีของเขาเลยมักสูง และเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนจะคิดถึงเวลาเปิดหน้าจัดทีม
ในมุมสายเดิมพัน
ในโลกของการลุ้นผลจริงจัง ชื่อของ Salah มีผลต่อ
- ราคาต่อรองบางประเภท
- ตลาดคนยิงประตู, ยิงก่อน, ยิง anytime
- มุมมองต่อโอกาสที่ทีมเขาจะทำประตูได้
คนที่ชอบวิเคราะห์เกมก่อนเล่นจริงจัง มักจะดูทั้งฟอร์มล่าสุดของเขา โปรแกรมแข่ง สภาพคู่แข่ง และรูปแบบเกมที่น่าจะเกิด ก่อนตัดสินใจว่าจะเล่นแบบไหนผ่านแพลตฟอร์มที่ตัวเองใช้อยู่
ถ้าใครกำลังมองหาช่องทางรวมทั้งบอลเดี่ยว บอลชุด และเกมอื่น ๆ เข้าไว้ในที่เดียว การเข้าใช้ผ่านแบรนด์อย่าง สมัคร UFABET ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การเชียร์ซาลาห์ในคืนวันแดงเดือด หรือเกมใหญ่ ๆ สนุกยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าจะเล่นยังไง ขีดจำกัดงบและสติคือสิ่งที่ต้องตั้งก่อนเสมอ
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Mohamed Salah
ถาม: ทำไม Mohamed Salah ถึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในปีกที่ดีที่สุดของยุคนี้?
ตอบ: เพราะเขาผสม 3 อย่างสำคัญไว้ด้วยกัน คือ ความเร็วจัด, ทักษะการเลี้ยงและตัดเข้าในที่เฉียบคม, และการจบสกอร์ที่อยู่ในระดับกองหน้าตัวเป้า เมื่อรวมกับการยืนระยะหลายฤดูกาลและบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ ทำให้เขาถูกจัดอยู่ในระดับท็อปของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ถาม: ซิกเนเจอร์ของ Salah คืออะไร?
ตอบ: จังหวะที่เขารับบอลทางขวา ล็อกหนึ่ง–สองจังหวะ แล้วตัดเข้าในซ้ายก่อนปั่นโค้งไปเสาสองคือภาพจำสุด ๆ ทุกคนรู้ว่าเขาจะทำ แต่การหยุดมันไม่ง่ายเลย เพราะต้องอาศัยทั้งการดักทางที่ดีมาก และการช่วยกันของกองหลังหลายคน
ถาม: Salah ต่างจากปีกขวาทั่วไปยังไง?
ตอบ: ปีกขวาทั่วไปอาจเน้นเปิดบอลเข้ากลางเป็นหลัก แต่ Salah เล่นเหมือน “กองหน้าที่เริ่มต้นจากริมเส้น” เขาจึงจบสกอร์เองบ่อยมาก แถมยังมีส่วนร่วมการสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนร่วมทีมด้วย ทำให้เขาสำคัญทั้งในบทบาทคนยิงและคนจ่าย
ถาม: เขาแบกทีมชาติอียิปต์ในระดับไหน?
ตอบ: เรียกว่าคือความหวังหลักของทีมชาติเลยก็ได้ ทั้งในเรื่องการยิงประตู การสร้างโอกาส และภาพลักษณ์ที่ทำให้คู่แข่งเกรงใจ เมื่อลงสนามในนามทีมชาติ เขามักจะโดนประกบแน่นเป็นพิเศษ เพราะทุกคนรู้ว่าถ้าปล่อยให้เล่นง่าย ๆ สกอร์อาจเปลี่ยนได้ทันที
ถาม: Salah เป็นไอดอลแบบไหนสำหรับเด็ก ๆ?
ตอบ: เขาคือภาพของเด็กบ้านชนบทที่ใช้ความพยายามและวินัยพาตัวเองขึ้นไปถึงระดับสูงสุดของฟุตบอล แถมยังไม่ลืมบ้านเกิด ช่วยเหลือชุมชน และมีภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ค่อยมีดราม่านอกสนาม ทำให้เด็ก ๆ มองเขาเป็นต้นแบบทั้งในฐานะนักฟุตบอลและในฐานะคนคนหนึ่ง
ถาม: ถ้าอยากเล่นสไตล์คล้าย Salah ควรโฟกัสฝึกอะไร?
ตอบ: ต้องพัฒนาหลายอย่างควบคู่กัน ทั้งสปีด การเลี้ยงบอลในพื้นที่แคบ การตัดเข้าในยิง การหาช่องวิ่งหลังแบ็ก และที่สำคัญคือ “การจบสกอร์ด้วยเท้าข้างถนัด” ให้เฉียบที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมถึงการฟิตเนสให้พร้อมวิ่งสลับสปีดทั้งเกมแบบที่เขาทำเป็นประจำ
ถาม: Salah ในสายตาแฟนลิเวอร์พูลสำคัญแค่ไหน?
ตอบ: เขาไม่ได้เป็นแค่ปีกคนหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของยุคทองอีกยุคหนึ่งของสโมสร เป็นคนที่ทำให้คำว่า “ประตูจากริมเส้นขวา” กลายเป็นภาพประจำแอนฟิลด์ และเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ถูกพูดถึงในระดับเดียวกับตำนานหลาย ๆ คนของสโมสรในประวัติศาสตร์ยาวนานของทีม
บทส่งท้าย: Mohamed Salah และพลังของคนที่ไม่หยุดวิ่งตามฝัน
เมื่อเรามองเส้นทางของ Mohamed Salah ตั้งแต่เด็กชายจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ในอียิปต์ที่ต้องเดินทางไกลไปซ้อมทุกวัน ไปจนถึงการเป็นสตาร์ระดับโลกของลิเวอร์พูลและทีมชาติอียิปต์ มันคือเรื่องราวของคนที่ไม่เคยหยุดวิ่งตามความฝันของตัวเอง ทั้งในความหมายตรงตัวบนสนาม และในความหมายเชิงชีวิตจริง
เขาแสดงให้เห็นว่า จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ไม่ได้จำกัดปลายทางของเรา ถ้าเรายอมเหนื่อยมากพอและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ จากการถูกมองข้ามในช่วงต้นอาชีพ สู่การกลายเป็นหนึ่งในแนวรุกที่มีอิทธิพลมากที่สุดของยุคนี้ ทุกประตู ทุกแอสซิสต์ และทุกการวิ่งไล่บอลของเขาคือบทพิสูจน์ของคำว่า “ทำงานให้หนัก แล้วปล่อยให้ผลงานพูดแทน”
สำหรับเราในฐานะแฟนบอล การได้ดู Mohamed Salah เล่นในช่วงพีคของเขา คือของขวัญชิ้นหนึ่งของยุคฟุตบอลนี้ ไม่ว่าจะเชียร์เขาเพราะเป็นแฟนลิเวอร์พูล เพราะชอบสไตล์การเล่น หรือเพราะตามดูเพื่อวิเคราะห์เกมก่อนปรับแผนลุ้นผลในแพลตฟอร์มอย่าง ยูฟ่าเบท สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าลืมสนุกกับเกมที่อยู่ตรงหน้า และจำไว้เสมอว่าฟุตบอลคือเรื่องราวของความฝัน ความพยายาม และโมเมนต์เล็ก ๆ ที่ทำให้เราเฮไปพร้อม ๆ กัน
บางที แรงบันดาลใจที่ใหญ่ที่สุดจาก Mohamed Salah อาจไม่ใช่แค่จำนวนประตูที่เขายิงได้ แต่คือการที่เขาทำให้เด็กคนหนึ่งจากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ เชื่อว่า “ต่อให้เริ่มจากสนามดิน แต่ถ้าวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งเราอาจได้วิ่งในสนามที่ทั้งโลกจับตามองเหมือนกัน” 💫⚽️